EDP คืออะไร? หลักการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า มีกี่แบบ?

20 ธันวาคม 2021

ปัจจุบันชิ้นส่วนโลหะในแทบจะทุกอุตสาหกรรมมักผ่านการชุบเคลือบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิดด้วย การเคลือบโลหะ มีจุดประสงค์เพื่อเคลือบผิวของโลหะชนิดหนึ่ง ปรับปรุงผิวชิ้นงานให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหลอ ทนทานต่อความร้อน การเสียดสี ซึ่งการเคลือบโลหะสามารถทำได้หลายวิธี

วิธีการเคลือบโลหะที่นิยมใช้ มีอยู่ 2 วิธีหลักๆ คือ การชุบไฟฟ้า ตัวอย่างของการชุบด้วยไฟฟ้า เช่น การชุบซิงค์ ทองแดง นิกเกิล หรือการชุบโครเมียม และการชุบแบบจุ่ม เป็นการนำชิ้นงานลงไปจุ่มในสารละลายโลหะหรือสารเคมีที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา สร้างเป็นชั้นผิวเคลือบชิ้นงานขึ้นมา ตัวอย่างของการชุบประเภทนี้ ได้แก่ ชุบแบบจุ่มกาวาไนซ์ร้อน รมดำ เป็นต้น

แต่นอกเหนือจากวิธีดังกล่าวยังมีเทคโนโลยีการเคลือบโลหะที่เรียกว่า EDP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นการเคลือบโลหะที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง

EDP คืออะไร?

EDP ย่อมาจาก Electro Deposition Painting เป็นเทคโนโลยีการชุบผิวโลหะที่อาศัยกลไกทางไฟฟ้า เป็นวิธีที่ทำให้ได้ผิวเคลือบที่เรียบ ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง มีความหนาของผิวเคลือบและเฉดสีที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ มีแรงยึดเกาะที่ดี เหมาะกับการเคลือบวัสดุที่มีความซับซ้อน การพ่นสีแบบทั่วไปเข้าไม่ถึง เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าสามารถชุบวัสดุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก อลูมิเนียมผสม และซิงค์

การชุบโลหะด้วยไฟฟ้า คือการนำไฟฟ้ากระแสตรงมาใช้ในการชุบโลหะ โดยการเปลี่ยนสารละลายของสสารที่ต้องการใช้ชุบให้อยู่ในรูปของอิออนบวก ซึ่งจะไปจับตัวเป็นชั้นบางๆ บนวัสดุนำไฟฟ้าจำพวกโลหะที่ถูกใช้เป็นตัวถูกชุบ วัตถุประสงค์ของการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า ก็คือการชดเชยคุณสมบัติต่างๆ ที่ขาดไปของวัสดุที่เป็นตัวถูกชุบ เช่น ความสวยงาม คุณสมบัติการหล่อลื่น คุณสมบัติการป้องกันการหลุดลอกเนื่องจากการขัดสี สสารของวัสดุที่ใช้ชุบจะไปเคลือบอยู่บนวัสดุที่ต้องการชุบเพื่อเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เพิ่มความหนาและขนาดให้แก่วัสดุต่างๆ ที่มีขนาดเล็กเกินไปได้ด้วย

การชุบเคลือบแบบ EDP เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นวิธีการเคลือบสีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง โดยเฉพาะกับชิ้นงานที่มีโครงสร้างซับซ้อน ที่การเคลือบสีโดยวิธีอื่นทำได้ยาก นอกจากนี้การเคลือบแบบ EDP ยังใช้สีประเภท Non Lead, Cadmium, Mercury, Hexavalent Chromium ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก ทำให้กลายเป็นที่นิยมในหมู่ของอุตสาหกรรมรถยนต์, รถจักรยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุอื่นๆ

ขั้นตอน Electro Deposition Painting

Electro Deposition Painting แบ่งออกได้เป็น 2 ขั้นตอนหลักๆ คือ

  • Pretreatment Process
  • Electro Deposition Painting Process

การเคลือบสีแบบ EDP มีกี่ประเภท?

การเคลือบสีแบบ EDP สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

  • เคลือบสี EDP Acrylic
  • เคลือบสี EDP Epoxy

ข้อดีของการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าแบบ EDP

  • การชุบโลหะแบบ EDP สามารถชุบออกมาได้ผิวที่เรียบและมีความหนาที่สม่ำเสมอ
  • การชุบโลหะแบบ EDP สามารถเคลือบได้ทุกส่วน แม้แต่ส่วนที่เป็นร่อง หลืบ ที่สเปรย์ธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงได้
  • การชุบโลหะแบบ EDP กันสนิมได้ดี ติดแน่น ทนทานกว่าการเคลือบแบบปกติ
  • การชุบโลหะแบบ EDP วัตถุดิบที่เคลือบไม่สามารถติดไฟได้ง่าย
  • การชุบโลหะแบบ EDP ช่วยลดอันตรายและไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อเทียบกันระหว่างระบบ EDP กับการพ่นสีแบบทั่วไป ผลแตกต่างกันอย่างไร?

  1. ความสามารถในการยึดเกาะ
    ความสามารถในการยึดเกาะเมื่อเคลือบด้วยระบบ EDP คือจะครอบคลุมทั้งด้านนอกและด้านใน แต่การพ่นสีแบบปกติอาจเข้าไม่ถึง ทำให้ชิ้นส่วนอาจเกิดความสึกกร่อนได้ในภายหลัง ถ้าเคลือบไปไม่ครอบคลุม จะทำให้อายุการใช้งานและความคงทนน้อยลงได้
  2. ความหนาของชั้นเคลือบ
    การเคลือบด้วยระบบ EDP จะให้ชั้นเคลือบที่สม่ำเสมอเท่ากันทุกจุด ด้วยอัตราการยึดเกาะที่เท่ากัน ทำให้เกิดผิวเคลือบที่สม่ำเสมอ ส่วนความหนาของชั้นผิวเคลือบสามารถควบคุมได้ด้วยการกำหนดช่วงเวลาในการเคลือบ ต่างจากการพ่นสีที่อาจจะได้ชั้นเคลือบที่ไม่สม่ำเสมอ
    ความคุ้มค่าในการใช้วัตถุดิบ
    เมื่อเปรียบเทียบระบบ EDP จะให้ความคุ้มค่าด้านวัตถุดิบที่มากกว่าการพ่นสีแบบทั่วไป คือสิ้นเปลืองน้อยกว่านั่นเอง นอกจากนี้ระบบ EDP จะไม่ทำให้เกิดการฟุ้งกระจายขณะเคลือบ และยังสามารถทำหลายชิ้นงานได้ในเวลาเดียวกัน
  3. ความสามารถในการรองรับการผลิตจำนวนมาก
    ระบบ EDP สามารถรองรับการผลิตจำนวนมากได้ดีกว่าการพ่น เพราะสามารถเคลือบได้จำนวนมากในครั้งเดียว ทำให้ประหยัดเวลาสามารถส่งงานได้ทันกำหนด ที่สำคัญการผลิตเชิงปริมาณยังต้องเน้นคุณภาพเป็นพิเศษ ซึ่งระบบ EDP สามารถควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพเท่ากันทุกชิ้น รวมถึงยังใช้ต้นทุนสิ้นเปลืองน้อยกว่าอีกด้วย

    เมื่อเปรียบเทียบการเคลือบโลหะด้วยวิธีอื่นๆ กับวิธีการเคลือบแบบ Electro Deposition Painting (EDP) จะเห็นว่า EDP มีประสิทธิภาพกว่าการเคลือบแบบอื่นๆ ทั้งคุณภาพและความคุ้มค่า

สรุป

การป้องกันการกัดกร่อนมีความสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมสำหรับตัวถัง องค์ประกอบของชั้นป้องกันจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนด เทคโนโลยี Electro Deposition Painting (EDP) จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ

ท้ายที่สุดนี้ ไทยปาร์คเกอร์ไรซิ่ง ในฐานะผู้นำทางด้านเทคโนโลยีการเตรียมพื้นผิว การเคลือบเตรียมผิวและชุบโลหะสำหรับวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ เรามีบริการรับวิเคราะห์และทดสอบทางเชิงกลที่ได้มาตรฐาน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพของวัสดุและความปลอดภัยเป็นสำคัญ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

แท็ก :
thaiparker thaiparker 023246600